สุดจริง “เฮลิคอปเตอร์” นำเสื้อ “ลิโอเนล เมสซี” บินอยู่เหนือเมือง โรซาริโอ ประเทศอาร์เจนตินาหลังทีมเอาชนะ “ทีมชาติโครเอเชีย” 3-0 ทะยานสู่รอบชิงชนะเลิศ “ฟุตบอลโลก 2022”
วันที่ 14 ธ.ค. 65 ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ภายใต้การนำทีม ลิโอเนล สกาโลนี เอาชนะ “แข้งตาหมากรุก” ทีมชาติโครเอเชีย 3-0 ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 4 ทีมสุดท้าย หรือ รอบรองชนะเลิศ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
เกมดังกล่าว “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ได้ 3 ประตูจาก ลิโอเนล เมสซี นาทีที่ 34 (จุดโทษ) ส่วนอีกสอง ประตูเป็นผลงานของ ฆูเลียน อัลบาเรซ ดาวยิงจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนาทีที่ 39 และ นาทีที่ 69 ทำให้พวกเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ได้อีกที หลังจากที่ครั้งล่าสุด พวกเขาเคยเข้าชิง เมื่อปี 2014 แต่แพ้ให้กับ “อินทรีเหล็ก” ทีมชาติเยอรมนี 0-1
ล่าสุด หลังชัยชนะในเกมนี้ ของทัพ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนตินา ทำให้นักฟุตบอล ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช รวมทั้งแฟนบอล เฮสนั่น กันสุดเหวี่ยงกับการที่พวกเขามีโอกาส เข้าไปลุ้นแชมป์ฟุตบอลโลก อีกสมัย ซึ่งชัยชนะครั้งสำคัญ กาลครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของพวกเขาทำให้มี เฮลิคอปเตอร์ ลำหนึ่งนำเสื้อแข่ง ทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ปักชื่อของ ลิโอเนล เมสซี บินอยู่เหนือเมืองโรซาริโอ ประเทศอาร์เจนตินา เพื่อเป็น การฉลองชัยในนัดนี้
เก็บตก 4 ประเด็นสำคัญ หลัง อาร์เจนตินา ทุบ โครเอเชีย 3-0 ทะลุชิงบอลโลก 2022
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 4 ทีมสุดท้าย คืนวันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2022 อาร์เจนตินา 3-0 โครเอเชีย สนาม: ลูซาอิล ไอคอนิค สเตเดี้ยม
เกมนี้ผิดจากที่หลายคนคาด จากที่มองว่า โครเอเชีย น่าจะมาเล่นแบบเขี้ยวลากดิน กระทั่งทำให้เกม อึดอัดและอาจจะยื้อไปจนถึงการดวลจุดโทษ แต่แล้วมันก็ไม่เป็นแบบนั้นเนื่องจากว่าวันนี้ ลิโอเนล สคาโลนี ที่ปรึกษาของ อาร์เจนตินา วางแผนรับมือมาเป็นอย่างดี ด้วยการอัดแผงกลางมาเต็มที่ 4 คนไล่ประกบไล่บีบพื้นที่ 3 ประสานแดนกลางของ โครเอเชีย ที่เป็นหัวใจสำคัญของเกมรุกได้อย่างอยู่หมัด
เมื่อแดนกลางทำเกมไม่ได้ เกมรุกของ โครเอเชีย ก็หมดความน่ากลัว แถมวันนี้เกมสวนกลับของ ทีมฟ้าขาว ก็ดูจะดุเดือดเด็ดขาดกระทั่งเป็นที่ มาของทั้งยัง 3 ประตูซึ่งต้องบอกเลยว่าเกมกับทั้งยัง เนเธอร์แลนด์ส และ ออสเตรเลีย ที่ผ่านมายังบีบหัวใจมากกว่านี้อีกมากมาย
โครเอเชีย มีทีเด็ดเพียงแค่แดนกลาง
เกมนี้ โครเอเชีย ยังคงวางหมากแบบเดิม ใช้ผู้เล่นชุดเดิม และยังเล่น ด้วยระบบเดิม ๆ ที่ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบมาได้ นั่นคือใช้ 3 ประสานแดนกลางที่เรียกได้ว่า “เวิลด์คลาสส์” ทั้งยัง มาเตโอ โควาชิช มาร์เซโล โบรโซวิช และ ลูก้า โมดริช ช่วยกับปั้นเกมจากแดนของตนเอง
แต่ที่ไม่เหมือนกับเกมก่อน ๆ คือวันนี้ อาร์เจนตินา มาเน้นแพคแดนกลางสู้ เมื่อ 3 สตาร์ของ โครเอเชีย ทำเกมไม่ได้ แนวรุกของพวกเขาที่ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ระดับท็อปก็เกือบจะหมดพิษสงโดนแผงหลัง อาร์เจนตินา เก็บกวาดได้หมด อย่างง่ายดาย แถมเกมรับของ โครเอเชีย ระดับก็ดูจะห่างชั้นเกิน ไปกับแนวรุกของ อาร์เจนตินา ทั้งยังแบ็คสองฝั่งอย่าง โซซา และ ยูราโนวิช ที่วันนี้เล่นพลาดบ่อยครั้งมาก
ขนาดคนที่ว่าแจ๋วอย่าง ยอสโก้ กวาดิโอล วันนี้ยังโดนเล่นงานอย่างหนัก และเมื่อ 3 ทหารเสือของ ทัพตราหมากรุก ที่เป็นราวกับหัวใจของทีมถูกปิดพื้นที่ ส่วนอื่นๆจึงเกือบจะเป็นอัมพาตไปแบบอัตโนมัติทันที
เมสซี จับมือ อัลวาเรซ พาทีมเข้าชิง
กลายเป็นเรื่องปกติ ไปเสียแล้ว สำหรับการที่ ลิโอเนล เมสซี จะสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ ให้เกิดขึ้นอยู่กับทีมชาติอาร์เจนตินา ในทัวร์นาเมนต์นี้ เนื่องจากว่าวันนี้ก็เป็นอีกเกมที่สตาร์วัย 35 ปีสามารถ ทำเรื่องยากให้ดูราวกับ ง่ายไปโดยสิ้นเชิง ทุกคราวที่เขาได้สัมผัสบอลก็ชอบมีทำให้ดูอันตรายได้เสมอ
ทั้งยังจังหวะยิงจุดโทษ ที่เฉียบคมปานมีดกรีด รวมทั้งจังหวะลากเดียว ลืมอายุ ก่อนที่จะแอสซิสต์สุดสวย เป็นประตูที่สามให้กับทีม แถมวันนี้คู่หูในแดนหน้าอย่าง จูเลียน อัลวาเรซ ก็ท็อปฟอร์ม ยิงไปสองเรียกจุกโทษอีกหนึ่ง ทำให้พูดได้เต็มปากว่า ณ เวลานี้เขากลายมาเป็นหัวหอก ที่ดูจะฝากความหวังเอาไว้ได้มากที่สุดในทีมแล้ว มีทั้งยังความเร็ว ความเฉียบคม ไปกับบอลได้ดี
และมันคง น่าเสียดายที่เมื่อกลับไปอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ เจ้าตัวต้องเป็นตัวสำรองของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ทั้งยังที่ผลงานดูมีอนาคตเสียขนาดนี้
โมร็อกโก หรือ ประเทศฝรั่งเศส ชั่วโมงนี้ เมสซี เจอใครก็ได้!
จากชัยชนะในเกมนี้ทำให้ อาร์เจนตินา เป็นทีมแรก ที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง ประเทศฝรั่งเศส และ โมร็อกโก ที่จะแข่งขันกันในคืนวันพุธนี้ แน่นอน ประเทศฝรั่งเศส ตัวเก็งดูเหนือกว่าชัดเจน แต่ โมร็อกโก ม้ามึดก็มีระบบที่ดีน่าติดตาม
อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าทุกทีมที่ผ่านมา ถึงรอบนี้ได้ย่อม ไม่มีหมู ทัพตราไก่ มี เอ็มบัปเป้ เป็นทีเด็ดขณะที่ผู้แทนเพียงอย่างเดียวจาก แอฟริกา ที่เหลือรอดก็เล่นบอลอย่าง มีระบบด้วยระเบียบ วินัยอันเคร่ง ฉนั้นไม่ว่าใครจะผ่านเข้าชิง ล้วนเป็นเกมที่น่าจะสนุกตื่นเต้นทั้งนั้น
แต่… บอกได้เลยว่าชั่วโมงนี้ ลิโอเนล เมสซี พร้อมชนทุกทีม ทั้งยังประเทศฝรั่งเศสที่เกมรับแต่ละคนจัดว่าสุดยอด หรือจะเป็น โมร็อกโก ที่ยังไม่เสียประตูให้ใคร ชั่วโมงนี้ “โลกทั้งยังใบ ทีมใดก็ได้”